23 สิงหาคม 2552

เรื่องสั้นหัดเขียน : จะไปด้วยกันมั้ยคะ?

“จะไปด้วยกันมั้ยคะ?”

คำถามนี้กลับมาหาเขาอีกครั้ง หลังจากที่เขาเมินเฉยต่อมันไปเมื่อสิบปีก่อน สิบปีแห่งความทุกข์ระทม รวดร้าวและกล่าวโทษตนเอง

ผลของการเมินเฉยต่อคำถามนั้น คือความเจ็บปวดทุกวินาทีที่รู้ว่าตนยังมีลมหายใจ ขณะที่ใครอีกคนดำรงอยู่เพียงในเงาความทรงจำ

อรจิราหญิงสาวผู้ร่าเริงสดใส รอยยิ้มของเธอทำให้โลกของเขาเบ่งบาน เสียงหัวเราะของเธอทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย ...แต่เขาก็ยังปล่อยให้เธอเดินจากไป...อย่างไม่มีวันหวนคืน

“นพคะ คุณเคลียร์งานเรียบร้อยรึยังคะ?” อรจิราเอ่ยถามคู่หมั้นหนุ่มในเย็นวันหนึ่ง เมื่อเธอเตรียมดำเนินตามแผนการชีวิตที่ทั้งคู่ได้วางไว้ นั่นคือไปเรียนต่อปริญญาโทที่ออสเตรเลียด้วยกัน แต่เขากลับทำลายแผนการนั้นเสียป่นปี้ยับเยินด้วยเหตุผล

“หน้าที่การงานผมกำลังก้าวหน้า ผมไม่อยากพลาดโอกาสนี้”

คู่รักหนุ่มสาวทุ่มเถียงกันด้วยเรื่องนี้นานนับเดือน อรจิราอยากอยู่ใกล้คนรักเมื่อต้องห่างไกลบ้านเกิดเมืองนอน แต่นพอยากสร้างความมั่นคงของอนาคตด้วยการสร้างเนื้อสร้างตัวรอเธอที่นี่ เมื่อโน้มน้าวใจคนรักหนุ่มไม่ได้อรจิราจึงดำเนินเรื่องการเดินทางเพียงลำพัง

ก่อนวันเดินทางสองวันเธอไปหาคนรักที่คอนโด ทั้งสองพูดคุยกันสารพัดเรื่อง แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องการเดินทางของเธอ และก่อนที่เธอจะกลับ

“จะไปด้วยกันมั้ยคะ?”

คำถามสุดท้ายของเธอ ไม่มีการเกริ่นนำ และเหมือนเธอไม่เคยถามมันมาก่อน แต่ทั้งสองเข้าใจกันดี ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามนั้น ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมัน ใครๆ มักคิดว่าการนิ่งเงียบคือการยอมรับ แต่บางครั้งความเงียบก็เป็นการปฏิเสธที่ดีที่สุด เธอไม่เซ้าซี้ใดๆ อีก คล้ายยอมรับและเข้าใจ

เธอเดินจากไปไม่มีคำพูดใดๆ ทิ้งไว้ให้ ไม่แม้แต่จะบอกว่า “แล้วจะรีบกลับมา” เหมือนเธอรู้ เธอจะไม่มีวันกลับมาอีก นพยืนมองเธอจากไปด้วยอาการสงบ ไม่มีคำล่ำลาใดๆ จากปากเขาเช่นกัน ไม่แม้จะยอมกล่าว “แล้วผมจะตามคุณไป” ทั้งที่เขารู้ว่าเธออยากฟังมันขนาดไหน

วันที่อรจิราเดินทาง นพไม่ได้ไปส่งคนรัก เพราะคำว่า ‘หน้าที่การงานกำลังก้าวหน้า’ ฝังอยู่ในหัว และเขาให้ความสำคัญกับมันมากกว่าเธอ เขาเดินทางไปต่างจังหวัดก่อนวันเธอเดินทางเพียงวันเดียว

นพรู้ข่าวคนรักในวันรุ่งขึ้น เครื่องบินที่เธอโดยสารตกในมหาสมุทร ไม่มีผู้รอดชีวิต ...เธอเดินทางไป...ชั่วนิรันดร์

และเขาก็ไม่มีโอกาสตามเธอไป เหมือนกับที่เขาไม่ได้พูด “แล้วผมจะตามคุณไป”

ตั้งแต่วันนั้นนพรู้สึกเหมือนร่างกายตนเป็นเพียงซากร่างไร้วิญญาณ มีชีวิตอยู่ไปวันๆ โดดเดี่ยว อ้างว้าง ทุรนทุราย ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานไม่มีความหมายใดๆ สำหรับเขาอีก เพราะเขาไม่รู้จะก้าวหน้าเพื่อใคร

ทุกครั้งที่คิดถึงเธอ นพแค่คิด ...ถ้าเพียงแค่เขาไปกับเธอ... ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย ขอเพียงแค่...ได้ไปด้วยกัน...

สิบปีที่ผ่าน นานเหลือเกินกับความทรมานในหัวใจ และนานเหลือเกินกว่าจะเปิดใจดวงนี้รับใครอีกคนเข้ามา

“ว่าไงคะคุณ จะไปด้วยกันมั้ย?”

เสียงนุ่มนวลเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ดึงเขาขึ้นจากภวังค์ เขาหันไปทางเสียงนั้นเผยยิ้มบางๆ ยื่นมือไปกุมมือเธอไว้ ไม่มีคำตอบเป็นวาจา ปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ลบล้างความผิดพลาดในอดีต เพราะในแววตานั้นกำลังบอกว่า

...ไม่มีวันทอดทิ้ง...

เรื่อยๆ เรียงๆ


...ฉันนั่งอยู่ตรงนี้...
อ่านกวี บทประพันธ์ที่ฉันรัก
พบพานหลากความหมายได้รู้จัก
เหนื่อยก็พักทอดสายตามองฟ้าไกล

นั่งมองฟ้าครามและเมฆขาว
มองเจ้าสาวดอกไม้ในสายลมไหว
มองผีเสื้อบินผ่านมาผ่านไป
...มองด้วยหัวใจรื่นรมย์...

Sobre a Emporium

รูปภาพของฉัน
สายลมพัดพลิ้วแผ่วแล้วคล้อยหาย สัมผัสได้แต่ไม่อาจจับต้อง

  © Blogger Template by Emporium Digital 2008

Back to TOP